Siripat Thai-Med Online School
  • Home
  • หลักสูตร
    • แพทย์แผนไทย >
      • เภสัชกรรมไทย >
        • เภสัชวัตถุ >
          • สมุนไพร ป่าชายเลน
        • สรรพคุณเภสัช
        • คณาเภสัช
        • หลักเภสัชกรรมไทย >
          • ตัวยาอันตราย
          • การสะตุ ประสะ ฆ่าฤทธิ์ตัวยา
          • ยาสามัญประจำบ้าน
        • แนวข้อสอบ เภสัชกรรมไทย
      • เวชกรรมไทย >
        • พระคัมภีร์ ฉันทศาสตร์
        • พระคัมภีร์ ปฐมจินดา
        • ตำรายา
        • แนวข้อสอบเวชกรรมไทย
      • ผดุงครรภ์ไทย >
        • แม๋ซื้อ
        • ห่วงเต้า
      • การนวดไทย >
        • กายวิภาคศาสตร์
        • การนวดราชสำนัก
        • ท่าบริหารฤาษีดัดตน
        • ท่าบริหารโยคะ
        • การหายใจบำบัดโรค
        • การนวดย่ำขาง
        • การนวดรักษา
        • แนวข้อสอบการนวดไทย
      • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง >
        • เฉลยข้อสอบ พ.ร.บ วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.$
        • พ.ร.บ การประกอบโรคศิลปะ >
          • แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒
        • พ.ร.บ สถานพยาบาล >
          • แนวข้อสอบ พ.ร.บ สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
        • พ.ร.บ ยา >
          • ประกาศยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖
          • แนวข้อสอบ พ.ร.บ ยา พ.ศ. ๒๕๑๐
    • การแพทย์ทางเลือก >
      • การนวดจัดกระดูก
      • นวดไทยเพื่อสุขภาพ
      • กดจุดสะท้อนฝ่าเท้า
      • กวาซา
    • ประกาศผลสอบ แพทย์แผนไทย ประจำปี ๒๕๕๔
    • งานวิจัยด้านการแพทย์แผนไทย
  • ประวัติปู่ชีวกโกมารภัจจ์/โรงเรียน
    • ประวัติ อ.ประสิทธิ์/พิธีไหว้ครู
    • ข้อมูลหลักสูตร >
      • ระเบียบการสมัครเรียน/สอบ
    • ทำเนียบครูแพทย์แผนไทย
    • ทำเนียบนักเรียน
    • เพลงแพทย์แผนไทย
  • สิริภัจจ์ สหคลินิก
    • กายภาพบำบัด
    • ยาแผนไทย
    • สมุนไพรบำบัด >
      • โรคสะเก็ดเงิน
    • นวดบำบัด
    • นวดจัดกระดูก
  • แผนที่โรงเรียน/คลินิก
  • ปรึกษาแพทย์ ฟรี
  • มารู้จัก มะเร็ง(โรคสาร) กันเถอะ
    • ตำหรับยา รักษามะเร็ง
    • ยารักษามะเร็ง/โจ๊กดอกไม้
  • ตำรายารักษาโรคต่างๆ
    • ยาแก้ไฟใหม้ -น้ำร้อนลวก
    • ยาแก้ งูสวัด เริม ไฟลามทุ่ง
    • ยารักษา โรคความดันโลหิตสูง
    • ยารักษาโรคไซนัสอักเสบและริดสีดวงจมูก
    • ยาแก้ไอ
    • ยาแก้ปวดหู
    • ยารักษาไข้หวัด
    • ยารักษาโรคตา
  • เครื่องมือทดสอบคุณภาพยาสมุนไพร
โรงเรียนสิริภัจจ์ การแพทย์แผนไทย อ.ประสิทธิ์ คงทรัพย์
Picture

           โรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ( ลมปลายปัตฆาต)

Picture
โรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง : Myofascial pain syndrome



        โรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
( Myofascial pain syndrome : MPS )

อาการปวดกล้ามเนื้อเป็นอาการที่พบบ่อยมาก เกือบทุกคนคงต้องเคยเผชิญกับการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก่อนซึ่งส่วนใหญ่มักรักษาตัวเองด้วยการพัก ซื้อยามารับประทานเอง ซึ่งบางส่วนอาการผู้ป่วยก็จะหายเองได้

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยบางรายมีอาการปวดเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นการปวดต่อเนื่องหรือมีอาการปวดเป็นหาย ๆ ซึ่งสร้างความรำคาญให้แก่การดำเนินชีวิตเป็นอย่างยิ่ง และผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรังมักไปพบแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์แผนโบราณ 
หรืออาจไปให้หมอนวด นวดให้เพื่อบรรเทาอาการปวดได้

หนึ่งในโรคปวดที่เป็นเรื้อรังได้แก่ “ โรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ” 
หรือเรียกว่า Myofascial pain syndrome (MPS) ซึ่งนอกจาก
สร้างความทุกข์กายทุกใจให้ผู้ป่วยแล้ว ยังสร้างความลำบากในการรักษาด้วยเนื่องจากรักษายากและผู้ป่วยมักไม่หายเสียที 

อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยรู้เท่าทันโรคและวิธีในการปฏิบัติตัวในการรักษาแล้วก็สามารถวางแผนการรักษาร่วมกับแพทย์ได้


MPS คืออะไร ?
MPS เป็นโรคปวดกล้ามเนื้อที่เป็นอาการปวดเรื้อรัง โดยอาการปวดของโรคนี้จะเกิดขึ้นในบริเวณของศูนย์รวมความปวดของกล้ามเนื้อ หรือที่เรียกกันว่า จุดกดเจ็บ (Trigger points) จุดกระตุ้นกล้ามเนื้อในกล้ามเนื้อของผู้ป่วยจะมีอาการปวดเป็นบริเวณและมีการกระจายของอาการปวดไปตามส่วนของกล้ามเนื้อนั้น ๆ

ส่วนใหญ่คนทุก ๆคนมักเคยมีอาการปวดกล้ามเนื้อแต่มักหายเอง แต่ผู้ป่วย MPS มักมีอาการปวดที่เป็นเรื้อรังและมีอาการปวดที่แย่ลง โดยโรค MPS มีความสัมพันธ์กับโรคที่เกี่ยวกับความปวดอื่น ๆได้แก่ ไมเกรน ปวดกราม ปวดต้นคอ ปวดเอว หรือแม้แต่ปวดแขนขา เป็นต้น 

ปัจจุบันมีประชากรกว่าร้อยละ 30 มีปัญหาเรื่องโรคปวดเรื้อรัง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานในสำนักงาน ที่ต้องนั่งทำงานและใช้ คอมพิวเตอร์นานๆ 
สาเหตุที่ทำให้มีการปวดมีอาการเรื้อรัง เกิดจากการหดเกร็งสะสมของกล้ามเนื้อ จนเป็นก้อนเล็กๆ ขนาด 0.5-1 ซม. 
ที่เรียกว่า Trigger Point หรือ จุดกดเจ็บ จำนวนมากซ่อนอยู่ในกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ การเกิด Trigger Point ทำให้กล้ามเนื้อนั้นขาดเลือดและออกซิเจนเข้าไปเลี้ยง จนทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดการเกร็งของกล้ามเนื้อรอบบริเวณที่มี Trigger Point โดยการอักเสบของ Trigger Point จะส่งอาการปวดไปที่กล้ามเนื้อบริเวณจุดรวมของ Trigger Point และปวดร้าวไปยังบริเวณที่อยู่ใกล้เคียง 

อาการของ MPS เป็นอย่างไร ?
อาการและอาการแสดงมีดังนี้ 
รูปแสดงจุดกดเจ็บที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยโรค MPS

1.มีอาการปวดร้าวลึกๆ ของกล้ามเนื้อ ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยอาจปวดตลอดเวลาหรือปวดเฉพาะเวลาทำงาน 
2.ความรุนแรงของการปวด มีได้ตั้งแต่แค่เมื่อยล้าพอรำคาญ จนไปถึงปวดทรมานจนไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ปวดได้ 
3.บางกรณีมีอาการชามือและชาขาร่วมด้วย 
4.บางรายมีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง อาการนอนไม่หลับ 
5.มีอาการผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย เช่น ไหล่สูงต่ำไม่เท่ากัน หลังงอ คอตก ขาสั้นยาวไม่เท่ากัน 

ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรค MPS ?
•กล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บ เช่น การออกกำลังที่หักโหมจนอาจเกิดกล้ามเนื้อฉีก การใช้งานกล้ามเนื้อหนักจนเกินไป 
•การขาดการออกกำลังกาย ถ้าคุณไม่ได้ออกกำลังกล้ามเนื้อเลย เช่น อาจเกิดหลังผ่าตัดทำให้ต้องนอนติดเตียงนาน เมื่อฟื้นก็ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังได้ 
•ความเครียด มีความเชื่อกันว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะบีบนวดแบบเค้นกล้ามเนื้อตัวเองสูงทำให้กล้ามเนื้อสร้างจุดกดเจ็บขึ้น 
•อายุ ส่วนใหญ่ ผู้ป่วยมักอยู่ในวัยทำงาน ต้องมีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียด นั่งนานเช่นทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ เป็นต้น 
•เพศ พบว่าส่วนใหญ่ผู้หญิงมักมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ชาย 

โรค MPS เป็นแล้วมีอันตรายหรือไม่อย่างไร ?
เมื่อผู้ป่วยโรค MPS มีอาการปวดเรื้อรัง อาจมีผลข้างเคียงดังนี้
อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
MPS อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้หากเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเกิดเนื่องด้วยผู้ป่วยไม่ค่อยขยับกล้ามเนื้อที่เป็นทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้ใช้งานระยะยาว จึงเกิดอ่อนแรงขึ้นได้ 
ความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับ
อาการของ MPS อาจทำให้นอนไม่หลับ และทำให้หาท่านอนหลับที่สบายไม่ได้ โดยถ้าผู้ป่วยขยับตัวอาจไปกระตุ้นจุดกดเจ็บทำให้ตื่นตอนกลางคืนได้ 

การรักษาทางกายภาพบำบัด
นักกายภาพจะใช้วิธีที่ทำให้อาการปวดดีขึ้นหลายเทคนิคได้แก่ 
•การประคบร้อน
•การนวด
•การยืดกล้ามเนื้อ 
•การรักษาด้วยคลื่นเสียง (Ultrasound)
•การรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
•การสอนท่าการออกกำลังกายที่เหมาะสม

ผู้ป่วยควรปรับปรุงชีวิตประจำวันอย่างไร ?
การดูแลตัวเองมีความสำคัญมากเนื่องจากโรคนี้มีความเกี่ยวพันกับการใช้ชีวิตประสำวันสูง ได้แก่ 
•ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 
•หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด 
•ไม่ควรทำงานอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลานาน
•ยืดคลายกล้ามเนื้อเมื่อต้องทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน
•นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรอดหลับอดนอน หรือนอนดึกติดต่อกันหลายวัน
•เลือกใช้เตียงนอนที่ไม่นุ่มหรือแข็งมากเกินไป
•ปรับความสูง-ต่ำของหมอนหนุนให้รองรับพอดีกับคอ
•ปรับความสูง-ต่ำของโต๊ะ-เก้าอี้ที่ทำงานให้นั่งแล้วสบาย หรือรู้สึกเมื่อยน้อยที่สุด
•ดูแลเรื่องอาหารการกิน ควรรับประทานอาหารที่มีกากสูง



Picture
การนวดบำบัด   (massage therapy)  

แพทย์ที่คลินิกได้ผสมผสานระหว่างการนวดไทยกับการนวดทาง
กายภาพบำบัด เข้าด้วยกันและทำให้เกิดประสิทธิภาพในการนวดอย่างดี    
การนวดที่ดีต้องมีความรู้อย่างแท้จริงเกี่ยวกับสาเหตุของโรค 
ความรู้ทางกายวิภาคศาสตร์ที่ดี  
มีความแม่นยำในหลักการนวดอย่างถูกต้อง
และต้องรู้จักผสมผสานกับศาสตร์การรักษาต่างได้อย่างเหมาะสม
                                                      และปลอดภัย
ดำเนินการและควบคุมโดย 
                                                    
อ.ประสิทธิ์ คงทรัพย์(พท.บ/พท.ว/พท.ภ/พท.ผ/พท.น/วท.บ)


สมัครเรียนติดต่อ siripatclinic@gmail.com โทร.087-1639644,